ทำความรู้จักกับเครื่องตัดไฟรั่ว

มารู้จักกับเครื่องตัดไฟฟ้ารั่วกันให้มากขึ้นอีกนิด เครื่องมือตัดไฟฟ้านี้มีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องมีการติดตั้ง ข้อดีข้อเสียคืออะไร ประเภทไหนที่คุณจะเลือกใช้ได้  พร้อมวิธีติดตั้งเครื่องตัดกระแสไฟฟ้ารั่วกับสายดินอย่างถูกต้องเป็นอย่างไร มาหาคำตอบได้ในบทความนี้

เครื่องตัดไฟรั่วคืออะไร

มีอีกชื่อหนึ่งที่คุณอาจจะคุ้นเคยมากกว่าคือ เครื่องกันไฟฟ้าดูด เป็นเครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติหากมีการทำงานของกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติ โดยการทำงานของเครื่องตัดไฟรั่วคือ เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิดป้องกันไฟรั่ว เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่มีอิมพีแดนซ์สูง เพื่อป้องกันไฟฟ้าช็อต โดยมีการตรวจจับแรงดันไฟฟ้าที่รั่วบนเปลือกสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และทำการขัดจังหวะของวงจรไฟฟ้า หากมีกระแสไฟฟ้าเกินขีดจำกัด

เครื่องตัดไฟรั่วมีกี่ประเภท

เครื่องตัดไฟรั่วนั้นมีอยู่ 2 ประเภทที่แบ่งแยกตามคุณสมบัติของการทำงาน คือ

  1. เครื่องตัดไฟฟ้ารั่วชนิดที่สามารถตัดกระแสลัดวงจรได้ เครื่องนี้สามารถใช้งานได้โดยอิสระ ตัดได้ทั้งไฟฟ้ารั่ว และกระแสลัดวงจร
  2. เครื่องตัดไฟฟ้ารั่วชนิดไม่สามารถตัดออกจากกระแสลัดวงจรได้ สำหรับชนิดนี้ต้องใช้ร่วมกับฟิวส์ หรือเครื่องตัดกระแสลัดวงจร ช่วยเสริมในกรณีที่ต้องตัดกระแสลัดวงจรด้วย

ประโยชน์ของเครื่องตัดไฟรั่ว

ประโยชน์ของเครื่องตัดไฟรั่วคือการป้องกันอันตรายจากการถูกไฟฟ้าช็อต ป้องกันอัคคีภัยจากการเกิดไฟฟ้ารั่ว ในวงจรไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และยังสามารถใช้ตรวจสอบจุดที่เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้อีกด้วย ซึ่งประโยชน์เครื่องตัดไฟฟ้านี้จะเป็นการป้องกันเสียมากกว่าแก้ปัญหา อาคารสถานที่ควรติดตั้งไว้เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ อันเกิดมาจากกระแสไฟฟ้าทำงานไม่ปกติ

คุณสมบัติที่ดีของเครื่องตัดไฟรั่ว

เครื่องตัดไฟรั่วที่ดีนั้นมีหลักการทำงานไม่ยุ่งยาก ระบบที่ดีต้องสามารถตัดกระแสไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วทันเวลา และยังต้องมีคุณสมบัติที่เป็นพื้นฐาน ดังนี้ 

  • ขนาดกระแสไฟฟ้ารั่วที่กำหนดไม่เกิน 30 มิลลิแอมป์
  • เวลาที่ใช้ในการตัดไฟฟ้าไม่เกิน 0.04 วินาทีที่ไฟฟ้ารั่ว 5 เท่า
  • เครื่องตัดไฟรั่วที่ดีต้องไม่ตัดไฟฟ้าเมื่อมีไฟฟ้ารั่วเพียงครึ่งเดียว หรือ 0.5 IAN
  • ควรติดตั้งเพื่อใช้ป้องกันอันตรายเฉพาะจุด ไม่ควรติดตั้งที่เมนสวิตช์

ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วต่างจากติดสายดินยังไง

หลายคนน่าจะสงสัยว่าสายดินกับเครื่องตัดไฟรั่วต่างกันอย่างไร คำตอบคือ สายดินเป็นความจำเป็นอันดับแรกที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูด เพราะการทำงานคือจะเป็นตัวกลางนำกระแสไฟฟ้าที่อาจเป็นอันตรายลงสู่ดิน ส่วนเครื่องตัดไฟรั่วนั้นไม่มีสายดิน และจะทำงานก็ต่อเมื่อไฟฟ้ารั่วไหลเข้าร่างกายแล้ว ระบบไฟฟ้าที่สมบูรณ์จึงควรมีทั้งสายดิน  และเครื่องตัดไฟรั่ว ทำงานด้วยกัน

สรุปบทความ

เครื่องตัดไฟรั่ว อีกเครื่องมือที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณและคนที่คุณรักปลอดภัยจากอันตรายที่อาจเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วจากสายไฟฟ้า หรือสายไฟบ้าน ต่างจากสายดินตรงที่การทำงานจะสามารถตัดไฟฟ้าได้ก็ต่อเมื่อตรวจจับกระแสไฟฟ้าที่รั่วออกมาเกินกำหนด แต่เครื่องตัดไฟรั่วที่ดีต้องไม่มีการตัดไฟบ่อยเกินไปหากมีการตัดไฟบ่อย ๆ ต้องรีบหาทางแก้ไข เพื่อการทำงานของเครื่องตัดไฟที่มีประสิทธิภาพสูงสุด